Shopping Cart

No products in the cart.

กฎหมายแรงงานคอนเฟิร์ม! เลิกจ้างพร้อมจ่ายเงินสินน้ำใจ = ไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยเพิ่ม

แบ่งปันเพื่อนๆ หรือ แชร์เก็บไว้ดูเอง

การเลิกจ้างเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและซับซ้อนที่เกี่ยวข้องกับทั้งนายจ้างและลูกจ้าง การเข้าใจในข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลิกจ้างถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกฝ่าย และหนึ่งในประเด็นที่มักจะสร้างความสับสนและเข้าใจผิดกันมากที่สุดคือเรื่องของ “เงินสินน้ำใจ” กับ “ค่าชดเชยตามกฎหมาย” ที่มักมีการกล่าวถึงเมื่อมีการเลิกจ้าง ในบทความนี้ แองจี้จะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อให้ทั้งนายจ้างและลูกจ้างเข้าใจตรงกัน

เงินสินน้ำใจ คืออะไร?

“เงินสินน้ำใจ” หรือ “เงินขอบคุณ” เป็นเงินที่นายจ้างจ่ายให้กับลูกจ้างเมื่อมีการเลิกจ้าง โดยทั่วไปแล้ว เงินสินน้ำใจนี้ไม่ถือว่าเป็นค่าชดเชยตามกฎหมาย แต่ถูกมองว่าเป็นการแสดงน้ำใจจากนายจ้าง เพื่อขอบคุณสำหรับการทำงานที่ผ่านมา ซึ่งอาจเป็นเพราะการตั้งชื่อหรือแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับคำว่า “สินน้ำใจ” ทำให้ดูเหมือนว่าเป็นการให้เชิงน้ำใจเท่านั้น

แต่สิ่งที่ลูกจ้างหลายคนยังคงไม่เข้าใจคือ เงินสินน้ำใจที่นายจ้างจ่ายให้นั้นอาจไม่ถือว่าเป็นค่าชดเชยทางกฎหมาย และทำให้เกิดความสับสนเมื่อลูกจ้างได้รับเงินสินน้ำใจแล้ว แต่ยังคงฟ้องร้องนายจ้างเพื่อขอค่าชดเชยตามกฎหมายที่ตนเห็นว่าตนควรได้รับ สิ่งนี้ทำให้เกิดเคสการฟ้องร้องมากมายในแต่ละปี ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับความไม่เข้าใจในแนวคิดเรื่องเงินสินน้ำใจและค่าชดเชยตามกฎหมาย

ความจริงเกี่ยวกับเงินสินน้ำใจและค่าชดเชยตามกฎหมาย

ในความเป็นจริง การเลิกจ้างที่มีการจ่ายเงินสินน้ำใจส่วนใหญ่นั้น มักจะมีวัตถุประสงค์และหลักเกณฑ์คล้ายคลึงกับการจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมาย นายจ้างอาจใช้เงินสินน้ำใจเพื่อชดเชยค่าเสียหายบางประการที่ลูกจ้างจะต้องเผชิญหลังจากการเลิกจ้าง เช่น การสูญเสียรายได้หรือการหางานใหม่ ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน แองจี้แนะนำว่า เราควรเรียกเงินที่นายจ้างจ่ายนี้ว่า “ค่าชดเชย” แทน

ค่าชดเชยตามกฎหมายคืออะไร?

ตามกฎหมายแรงงานของประเทศไทย ค่าชดเชยเป็นเงินที่นายจ้างต้องจ่ายให้กับลูกจ้างเมื่อมีการเลิกจ้าง โดยคำนวณตามอายุงานของลูกจ้างตั้งแต่เริ่มงานจนถึงวันที่สิ้นสุดสัญญาจ้าง การคำนวณค่าชดเชยนี้เป็นไปตามมาตรา 118 ของกฎหมายคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ซึ่งได้ระบุไว้ว่า ลูกจ้างที่ทำงานกับนายจ้างเป็นเวลาหนึ่งปีขึ้นไป มีสิทธิได้รับค่าชดเชยตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด

การคำนวณค่าชดเชย

การคำนวณค่าชดเชยตามกฎหมายจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ลูกจ้างทำงานให้กับนายจ้าง ตัวอย่างเช่น

  • ลูกจ้างที่ทำงานเป็นเวลา 120 วันแต่ไม่ถึง 1 ปี จะได้รับค่าชดเชยเท่ากับเงินเดือน 30 วัน
  • ลูกจ้างที่ทำงานตั้งแต่ 1 ปีแต่ไม่ถึง 3 ปี จะได้รับค่าชดเชยเท่ากับเงินเดือน 90 วัน
  • ลูกจ้างที่ทำงานตั้งแต่ 3 ปีแต่ไม่ถึง 6 ปี จะได้รับค่าชดเชยเท่ากับเงินเดือน 180 วัน
  • ลูกจ้างที่ทำงานตั้งแต่ 6 ปีแต่ไม่ถึง 10 ปี จะได้รับค่าชดเชยเท่ากับเงินเดือน 240 วัน
  • ลูกจ้างที่ทำงานตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป จะได้รับค่าชดเชยเท่ากับเงินเดือน 300 วัน

ดังนั้น การคำนวณค่าชดเชยต้องคำนึงถึงระยะเวลาที่ลูกจ้างทำงานกับนายจ้าง และต้องเป็นไปตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด

เงินสินน้ำใจเพิ่มเติม

ในบางกรณี นายจ้างอาจต้องการแสดงน้ำใจต่อพนักงานที่ทำงานมาอย่างยาวนานและมีความมุ่งมั่นในการทำงาน ด้วยการจ่าย “เงินสินน้ำใจ” เพิ่มเติมจากค่าชดเชยตามกฎหมาย ในกรณีนี้ การเรียกเงินส่วนนี้ว่า “เงินสินน้ำใจ” จึงจะเหมาะสมและเป็นที่ยอมรับของทั้งสองฝ่าย

วิธีการป้องกันความขัดแย้งในเรื่องเงินสินน้ำใจและค่าชดเชย

เพื่อป้องกันการฟ้องร้องและความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น นายจ้างควรทำตามขั้นตอนดังนี้

  1. ชี้แจงวัตถุประสงค์ของการจ่ายเงิน: นายจ้างควรชี้แจงให้ชัดเจนว่าการจ่ายเงินนั้นเป็นค่าชดเชยตามกฎหมายหรือเป็นเงินสินน้ำใจเพิ่มเติม เพื่อป้องกันความเข้าใจผิด
  2. ทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร: การทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรที่ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการจ่ายเงินและวัตถุประสงค์ของการจ่ายเงินจะช่วยป้องกันการฟ้องร้องในอนาคต
  3. การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ: การสื่อสารระหว่างนายจ้างและลูกจ้างควรเป็นไปอย่างเปิดเผยและชัดเจน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกันเกี่ยวกับการจ่ายเงินและสิทธิของตน
  4. ขอคำปรึกษาจากนักกฎหมาย: หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับกฎหมายแรงงาน นายจ้างควรขอคำปรึกษาจากนักกฎหมายหรือที่ปรึกษาทางกฎหมายเพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย

สรุป

เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดและความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น แองจี้ขอแนะนำให้นายจ้างใช้คำว่า “ค่าชดเชย” เมื่อจ่ายเงินตามกฎหมาย และหากต้องการให้เพิ่มเติมเพื่อแสดงน้ำใจจริงๆ ควรแยกเป็น “เงินสินน้ำใจ” ซึ่งน่าจะเป็นที่พอใจของลูกจ้างทุกคน การชี้แจงวัตถุประสงค์ของการจ่ายเงินให้ชัดเจนและการทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรจะช่วยป้องกันความขัดแย้งในอนาคต และช่วยให้นายจ้างและลูกจ้างสามารถรักษาความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันได้แม้จะมีการเลิกจ้างเกิดขึ้น

การเข้าใจในเรื่อง “เงินสินน้ำใจ” และ “ค่าชดเชยตามกฎหมาย” เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันความขัดแย้งและการฟ้องร้อง แต่ยังช่วยให้นายจ้างและลูกจ้างสามารถปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง และสร้างความเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในกระบวนการเลิกจ้าง


📚หลักสูตรกฎหมายแรงงานภาคปฏิบัติสำหรับผู้จัดการและ HR📚

การันตีเรียนจบเข้าใจทุกกฎหมายแรงงานที่องค์กรควรรู้ ลดเวลาในการไปศึกษาเอง ช่วยให้เข้าใจหลักการสำคัญและการนำไปปรับใช้ในกรณีศึกษาต่างๆ กว่า 30 กรณีศึกษา

รับรองได้ว่าเรียนจบท่านจะตอบคำถามแรงงานได้อย่างมั่นใจ!

เรียนซ้ำตลอดชีพได้อีก คุ้มกว่านี้ไม่มีแล้ว‼️

📌ลงทะเบียนวันนี้เพียง 3,950 บาทเท่านั้น💙


📌อย่าลืมติดตามเพจ HR Solutions By Angie เพื่อรับข้อมูลและเคล็ดลับดีๆ สำหรับ HR รุ่นใหม่กันนะคะ

#HRSolutionsByAngie #HR #HRSolutions #พนักงาน #บริหารคน #ค่าชดเชย #คอมมิชชั่น #กฎหมายแรงงาน

แบ่งปันเพื่อนๆ หรือ แชร์เก็บไว้ดูเอง

Leave a Reply