Shopping Cart

No products in the cart.

ตอนสัมภาษณ์ถูกใจมาก แต่พอทำงานจริงกลับใช้ไม่ได้ ปัญหาอยู่ที่การ Onboarding หรือไม่?

แบ่งปันเพื่อนๆ หรือ แชร์เก็บไว้ดูเอง

เคยไหมคะ ที่รู้สึกว่าผู้สมัครคนนี้ใช่แน่ ๆ ทั้งจากประสบการณ์ที่โดดเด่น และบุคลิกที่ตรงใจ องค์กรมั่นใจว่าคนนี้แหละที่จะช่วยเสริมทีมให้แข็งแกร่งขึ้น แต่พอเข้ามาทำงานจริงกลับไม่เป็นอย่างที่คิด พนักงานคนนั้นดูไม่เข้ากับทีม ผลงานไม่เป็นไปตามที่คุยกันไว้ หรืออาจถึงขั้นลาออกในช่วงเวลาอันสั้น

ปัญหานี้เกิดขึ้นในหลาย ๆ องค์กร แองจี้ก็เคยเผชิญกับสถานการณ์นี้เช่นกัน และหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่หลายองค์กรมองข้ามไปคือ การ Onboarding หรือกระบวนการต้อนรับและปรับตัวพนักงานใหม่ตั้งแต่วันแรกของการทำงาน

Onboarding คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญ?

Onboarding คือกระบวนการที่องค์กรใช้เพื่อต้อนรับพนักงานใหม่ ให้เขาได้เรียนรู้และทำความรู้จักกับองค์กร วัฒนธรรมองค์กร เป้าหมาย และหน้าที่ที่พวกเขาจะต้องรับผิดชอบ ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องพื้นฐานใช่ไหมคะ? แต่จริง ๆ แล้ว Onboarding คือกุญแจสำคัญที่ช่วยให้พนักงานใหม่สามารถปรับตัวและเริ่มต้นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ลองคิดดูนะคะ หากองค์กรของคุณเลือกที่จะข้ามขั้นตอนนี้ แล้วโยนงานให้พนักงานทำทันทีในวันแรก❌ นั่นหมายความว่า คุณอาจจะสร้างความกดดันให้พนักงานใหม่โดยไม่รู้ตัว พนักงานจะต้องเรียนรู้ทั้งงานใหม่ ทั้งวัฒนธรรมองค์กร และทำความรู้จักเพื่อนร่วมงานไปพร้อมกัน สิ่งนี้อาจทำให้พวกเขารู้สึกสับสน ไม่มั่นใจ และไม่เข้าใจความคาดหวังที่องค์กรมีต่อพวกเขา

การ Onboarding ที่ดีควรประกอบด้วยอะไรบ้าง?

  1. แนะนำวัฒนธรรมองค์กร
    พนักงานใหม่ต้องเข้าใจว่าบริษัทของคุณมีค่านิยมอะไรและมีการทำงานในรูปแบบใด เพื่อให้พวกเขาสามารถปรับตัวเข้ากับทีมได้อย่างรวดเร็ว
  2. สร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน
    การที่พนักงานรู้จักและเชื่อมโยงกับทีมตั้งแต่วันแรก จะทำให้พวกเขารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของทีม และลดความรู้สึกโดดเดี่ยว
  3. อธิบายเป้าหมายและทิศทางขององค์กร
    การทำงานจะไม่มีประสิทธิภาพถ้าพนักงานไม่รู้เป้าหมายขององค์กร การบอกให้พนักงานใหม่รู้ว่าองค์กรกำลังมุ่งหน้าไปทางไหน จะช่วยให้พวกเขาสามารถนำทักษะที่มีมาปรับใช้ได้อย่างถูกทิศทาง
  4. สอนการใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีที่จำเป็น
    การให้พนักงานใหม่เข้าใจวิธีการใช้เครื่องมือหรือระบบที่จำเป็นต่อการทำงาน จะช่วยให้พวกเขาทำงานได้เร็วขึ้น
  5. สนับสนุนการพัฒนาทักษะ
    การชี้แนะวิธีที่พนักงานสามารถพัฒนาทักษะของตนเองเพื่อให้เหมาะสมกับองค์กร จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

การข้ามขั้นตอน Onboarding อาจส่งผลเสียร้ายแรง

หลายองค์กร โดยเฉพาะองค์กรขนาดเล็ก มักมองข้ามกระบวนการ Onboarding เพราะคิดว่าไม่จำเป็น แต่ความเป็นจริงคือ การละเลยขั้นตอนนี้อาจนำไปสู่ปัญหามากมาย เช่น พนักงานไม่สามารถปรับตัวได้ ลาออกในระยะเวลาสั้น ๆ และองค์กรต้องเสียค่าใช้จ่ายในการหาพนักงานใหม่อยู่บ่อยครั้ง

ถ้าองค์กรของคุณเคยเผชิญปัญหาพนักงานใหม่ลาออกภายในไม่กี่เดือน ลองมองย้อนกลับไปดูสิคะว่า องค์กรของคุณได้ให้ความสำคัญกับ Onboarding หรือไม่? หากยังไม่มีการวางแผน Onboarding อย่างเป็นระบบ นี่อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่พนักงานไม่สามารถทำงานได้เต็มที่

วิธีปรับปรุงกระบวนการ Onboarding ให้มีประสิทธิภาพ

  1. เริ่มต้นตั้งแต่การสัมภาษณ์
    Onboarding ไม่ควรเริ่มต้นแค่ในวันแรกที่พนักงานเข้ามาทำงาน แต่ควรเริ่มตั้งแต่กระบวนการสัมภาษณ์เลยค่ะ การสื่อสารที่ชัดเจนตั้งแต่การสัมภาษณ์เกี่ยวกับวัฒนธรรมองค์กร หน้าที่งาน และความคาดหวัง จะช่วยให้พนักงานมีความเข้าใจในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
  2. สร้างคู่มือการ Onboarding
    จัดทำคู่มือที่เป็นระบบและชัดเจนสำหรับพนักงานใหม่ ตั้งแต่การแนะนำองค์กรจนถึงการเรียนรู้ทักษะที่จำเป็น รวมถึงให้มีพี่เลี้ยงหรือ Mentor ที่คอยช่วยเหลือในช่วงแรกของการทำงาน
  3. ติดตามผลอย่างต่อเนื่อง
    อย่าปล่อยให้การ Onboarding เป็นเรื่องของวันแรกเท่านั้น การติดตามผลหลังจากที่พนักงานทำงานไปสักระยะจะช่วยให้คุณสามารถปรับปรุงและสนับสนุนพนักงานได้อย่างตรงจุด

การ Onboarding ที่ดีไม่ใช่เรื่องที่ควรละเลย การโยนงานให้พนักงานใหม่ทำทันทีโดยไม่สนับสนุนการปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมองค์กรหรือเพื่อนร่วมงาน จะทำให้พนักงานรู้สึกไม่มั่นใจและสับสน การมีระบบ Onboarding ที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพจะช่วยลดการลาออก และเพิ่มความสามารถในการปรับตัวและการทำงานของพนักงานใหม่ได้อย่างแน่นอนค่ะ

อย่ารอให้ปัญหาเกิดก่อนค่อยหาทางแก้นะคะ การสร้างระบบ Onboarding ที่ดีเป็นการลงทุนระยะยาวที่คุ้มค่า เพื่อให้องค์กรของคุณได้พนักงานที่มีคุณภาพและพร้อมทำงานได้ทันที


📌อย่าลืมติดตามเพจ HR Solutions By Angie เพื่อรับข้อมูลและเคล็ดลับดีๆ สำหรับ HR รุ่นใหม่กันนะคะ

แบ่งปันเพื่อนๆ หรือ แชร์เก็บไว้ดูเอง

Leave a Reply