Shopping Cart

No products in the cart.

นายจ้างต้องระวัง! เลิกจ้างพนักงานเพราะบริษัทขาดทุนแบบใด ไม่ให้โดนฟ้องร้องภายหลัง

แบ่งปันเพื่อนๆ หรือ แชร์เก็บไว้ดูเอง

การเลิกจ้างพนักงานเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ทั้งในมุมของพนักงานและนายจ้างเอง แต่ในบางกรณี การเลิกจ้างก็กลายเป็นทางเลือกสุดท้ายเมื่อบริษัทประสบภาวะขาดทุน ซึ่งเป็นเรื่องที่พบเห็นได้ในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำ การเลิกจ้างด้วยเหตุผลนี้อาจดูเหมือนเป็นเรื่องปกติ แต่หากไม่ได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง นายจ้างอาจเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้องจากพนักงานได้ วันนี้แองจี้จะพาทุกคนมาเจาะลึกในหัวข้อการเลิกจ้างพนักงานเพราะบริษัทประสบภาวะขาดทุน โดยเราจะพูดถึงทั้งเหตุผลทางกฎหมาย แนวทางการดำเนินการอย่างถูกต้อง และวิธีการป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับนายจ้าง


ความหมายและหลักเกณฑ์ที่ควรรู้เกี่ยวกับการเลิกจ้างเพราะบริษัทขาดทุน

การเลิกจ้างพนักงานด้วยเหตุผลว่าบริษัทขาดทุน ไม่ใช่สิ่งที่ทำได้ง่ายๆ ตามกฎหมายแรงงานไทย การเลิกจ้างพนักงานจะต้องมีเหตุผลที่ชัดเจนและยุติธรรม โดยเฉพาะในกรณีที่บริษัทอ้างว่าเกิดภาวะขาดทุน การขาดทุนในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการขาดทุนในเชิงบัญชีเท่านั้น แต่ต้องเป็นการขาดทุนที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทในระดับที่ทำให้ไม่สามารถรักษากิจการไว้ได้

ขาดทุนแบบไหนถึงจะใช้เป็นเหตุผลในการเลิกจ้างได้?

คำว่า “ขาดทุน” อาจฟังดูง่าย แต่ในแง่ของการเลิกจ้างพนักงาน การขาดทุนจะต้องเป็นการขาดทุนที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่การขาดทุนทางบัญชีเฉพาะปีหนึ่งปีใดเท่านั้น หากบริษัทเคยมีกำไรสะสมหรือมีการทำกำไรในปีก่อนหน้า การขาดทุนในปีเดียวไม่เพียงพอที่จะเป็นเหตุผลในการเลิกจ้างพนักงาน การจะถือว่าบริษัทขาดทุนจนต้องลดพนักงาน บริษัทนั้นจะต้องประสบปัญหาทางการเงินในระดับที่รุนแรง เช่น การขาดทุนติดต่อกันหลายปีหรือการขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง ที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีอื่นใดนอกจากการลดจำนวนพนักงาน

นอกจากนี้ การขาดทุนในเชิงโครงสร้างธุรกิจหรือการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่ทำให้ธุรกิจไม่สามารถแข่งขันได้ในระยะยาวก็เป็นเหตุผลที่สามารถใช้ในการเลิกจ้างพนักงานได้ แต่ต้องเป็นการปรับโครงสร้างที่จำเป็นจริงๆ ไม่ใช่แค่การลดค่าใช้จ่ายเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในระยะสั้น

คำแนะนำ: ก่อนที่จะตัดสินใจเลิกจ้างพนักงานเพราะเหตุผลว่าบริษัทประสบภาวะขาดทุน นายจ้างควรปรึกษาทนายหรือที่ปรึกษากฎหมาย เพื่อให้แน่ใจว่าการดำเนินการดังกล่าวจะไม่ก่อให้เกิดปัญหาทางกฎหมายตามมา


การเตรียมตัวก่อนการเลิกจ้าง

ก่อนที่บริษัทจะดำเนินการเลิกจ้างพนักงานด้วยเหตุผลว่าบริษัทประสบภาวะขาดทุน สิ่งสำคัญคือต้องมีการสื่อสารและเตรียมตัวให้พนักงานรับรู้ถึงสถานการณ์ของบริษัทอย่างชัดเจน ซึ่งการสื่อสารที่ดีจะช่วยลดความขัดแย้งและความไม่พอใจในภายหลัง นายจ้างควรแจ้งให้พนักงานทราบเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเงินของบริษัท รวมถึงแนวทางการปรับตัวที่บริษัทกำลังพิจารณา เช่น

  • การลดค่าล่วงเวลา (OT)
  • การลดวันทำงาน
  • การหยุดให้บริการบางส่วนชั่วคราว
  • การเสนอโครงการสมัครใจลาออกพร้อมค่าชดเชย

การสื่อสารเหล่านี้ จะช่วยให้พนักงานเตรียมตัวและเตรียมใจในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง อีกทั้งยังช่วยลดความเครียดและความกังวลในที่ทำงาน

โครงการสมัครใจลาออก ทางเลือกที่ยุติธรรมสำหรับทุกฝ่าย

หนึ่งในแนวทางที่นิยมใช้กันในหลายบริษัทที่ประสบปัญหาขาดทุนคือ การเสนอโครงการสมัครใจลาออก โดยบริษัทจะเสนอค่าชดเชยหรือสวัสดิการเพิ่มเติมให้กับพนักงานที่ยินดีลาออกด้วยความสมัครใจ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้บริษัทสามารถลดจำนวนพนักงานได้โดยไม่ต้องเลิกจ้างโดยตรง อีกทั้งยังลดความเสี่ยงที่จะถูกฟ้องร้องในภายหลัง

นายจ้างควรเสนอเงื่อนไขที่ยุติธรรมแก่พนักงานที่เข้าร่วมโครงการสมัครใจลาออก เช่น การให้ค่าชดเชยเพิ่มเติมตามระยะเวลาการทำงาน หรือการสนับสนุนการหางานใหม่ ซึ่งการดูแลพนักงานในลักษณะนี้ จะสร้างความประทับใจให้กับพนักงานและช่วยลดปัญหาความขัดแย้ง ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้บริษัทสามารถปรับโครงสร้างได้อย่างราบรื่น


การคัดเลือกพนักงานที่จะถูกเลิกจ้าง ความยุติธรรมต้องมาก่อน

เมื่อบริษัทต้องดำเนินการเลิกจ้างพนักงาน การคัดเลือกพนักงานที่ถูกเลิกจ้าง ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ยุติธรรมและโปร่งใส เพื่อป้องกันปัญหาการฟ้องร้องหรือข้อขัดแย้งในภายหลัง บริษัทควรกำหนดเกณฑ์การคัดเลือกพนักงานที่ชัดเจน เช่น

  • การคัดเลือกจากผลงาน (Performance)
  • การคัดเลือกจากความจำเป็นในการทำงานของแผนก
  • การคัดเลือกจากอายุงานและทักษะที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของบริษัท

การเลือกปฏิบัติหรือคัดเลือกพนักงานโดยไม่มีเหตุผลที่ชัดเจน อาจทำให้นายจ้างเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้องเรื่องการเลิกจ้างไม่เป็นธรรมได้ ดังนั้น นายจ้างควรใช้เหตุผลและข้อมูลที่ชัดเจนในการตัดสินใจ

นอกจากนี้ การคัดเลือกพนักงานที่มีตำแหน่งหรือแผนกที่จะถูกยุบ นายจ้างควรหลีกเลี่ยงการรับพนักงานใหม่เข้ามาทำงานในตำแหน่งที่ถูกยุบ เพราะหากทำเช่นนั้นจะถือเป็นการเลิกจ้างไม่เป็นธรรมทันทีตามกฎหมาย


การช่วยเหลือหลังการเลิกจ้าง วิธีสร้างความประทับใจและลดความขัดแย้ง

การเลิกจ้างอาจเป็นจุดสิ้นสุดของความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างและพนักงาน แต่การเลิกจ้างอย่างมีความรับผิดชอบสามารถสร้างความประทับใจให้กับพนักงาน และลดความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นได้ นายจ้างควรมีแผนการช่วยเหลือพนักงานหลังการเลิกจ้าง เช่น

  • การให้คำแนะนำและการสนับสนุนในการหางานใหม่
  • การให้เอกสารรับรองประสบการณ์การทำงานเพื่อใช้ในการสมัครงานใหม่
  • การจ่ายค่าชดเชยตามที่กฎหมายกำหนด

การดูแลพนักงานแม้หลังจากการเลิกจ้างจะช่วยให้นายจ้างและพนักงานจบความสัมพันธ์ด้วยดี และยังช่วยลดความเสี่ยงในการฟ้องร้องหรือข้อขัดแย้งในอนาคต นายจ้างควรใส่ใจในความรู้สึกและความเป็นอยู่ของพนักงานในระยะยาว เพื่อให้พนักงานรู้สึกว่าบริษัทได้ให้ความสำคัญและดูแลพวกเขาแม้ในช่วงเวลาที่เลวร้าย


การป้องกันความเสี่ยงทางกฎหมาย

หนึ่งในสิ่งที่นายจ้างหลายรายมองข้ามคือ ความเสี่ยงทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นจากการเลิกจ้างพนักงาน แม้ว่าบริษัทจะอยู่ในภาวะขาดทุนและจำเป็นต้องเลิกจ้างพนักงาน แต่หากการเลิกจ้างไม่เป็นไปตามขั้นตอนที่ถูกต้อง นายจ้างอาจถูกพนักงานฟ้องร้องในข้อหาเลิกจ้างไม่เป็นธรรมได้

นายจ้างควรตรวจสอบและปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานอย่างเคร่งครัด รวมถึงควรปรึกษากับทนายความหรือที่ปรึกษาด้านกฎหมายก่อนที่จะดำเนินการเลิกจ้างพนักงาน การปฏิบัติตามกฎหมายและมีหลักฐานที่ชัดเจน จะช่วยให้นายจ้างสามารถป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในภายหลังได้


สรุป

การเลิกจ้างพนักงานไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนและยุติธรรม การสื่อสารกับพนักงานอย่างตรงไปตรงมา การคัดเลือกพนักงานที่จะถูกเลิกจ้างอย่างมีเหตุผล และการช่วยเหลือพนักงานหลังจากการเลิกจ้างจะช่วยลดความขัดแย้งและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้

นายจ้างควรเตรียมตัวให้พร้อมและปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้องเพื่อให้แน่ใจว่าการเลิกจ้างเป็นไปอย่างราบรื่นและไม่มีปัญหาทางกฎหมาย อย่าปล่อยให้องค์กรต้องเสี่ยงกับคำว่า “ไม่รู้” การรู้และปฏิบัติอย่างถูกต้องจะช่วยให้องค์กรของคุณแข็งแกร่งและสามารถก้าวข้ามปัญหาทางธุรกิจได้


📚หลักสูตรกฎหมายแรงงานภาคปฏิบัติสำหรับผู้จัดการและ HR📚

การันตีเรียนจบเข้าใจทุกกฎหมายแรงงานที่องค์กรควรรู้ ลดเวลาในการไปศึกษาเอง ช่วยให้เข้าใจหลักการสำคัญและการนำไปปรับใช้ในกรณีศึกษาต่างๆ กว่า 30 กรณีศึกษา

รับรองได้ว่าเรียนจบท่านจะตอบคำถามแรงงานได้อย่างมั่นใจ!

เรียนซ้ำตลอดชีพได้อีก คุ้มกว่านี้ไม่มีแล้ว‼️

📌ลงทะเบียนวันนี้เพียง 3,950 บาทเท่านั้น💙


📌อย่าลืมติดตามเพจ HR Solutions By Angie เพื่อรับข้อมูลและเคล็ดลับดีๆ สำหรับ HR รุ่นใหม่กันนะคะ

#HRSolutionsByAngie #HR #HRSolutions #พนักงาน #บริหารคน #ค่าชดเชย #คอมมิชชั่น #กฎหมายแรงงาน

แบ่งปันเพื่อนๆ หรือ แชร์เก็บไว้ดูเอง

Leave a Reply