Shopping Cart

No products in the cart.

Quiet Quitting การลาออกเงียบๆ ของพนักงานที่ส่งเสียงดังถึงปัญหาการบริหารงานขององค์กร

แบ่งปันเพื่อนๆ หรือ แชร์เก็บไว้ดูเอง

Quiet Quitting หรือ การลาออกเงียบๆ เป็นปรากฏการณ์ที่นับวันยิ่งแพร่หลายมากขึ้นในองค์กรต่างๆ ซึ่งภาวะนี้เกิดขึ้นเมื่อพนักงานเลือกที่จะทำงานเพียงขั้นต่ำตามหน้าที่เท่านั้น โดยไม่กระตือรือร้นในการทำงานเกินกว่าหน้าที่ที่รับผิดชอบ ถึงแม้พนักงานจะยังคงอยู่ในองค์กร แต่ประสิทธิภาพการทำงานและความมุ่งมั่นที่ลดลงนี้เป็นสัญญาณที่ส่งผลกระทบต่อองค์กรในระยะยาวอย่างไม่อาจมองข้ามได้

ในบทความนี้ แองจี้จะพาไปสำรวจถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะ Quiet Quitting วิธีการรับมือ และการสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมให้พนักงานมีความสุขและกระตือรือร้นในการทำงานต่อไป เพื่อไม่ให้ภาวะนี้เกิดขึ้นในองค์กรของคุณค่ะ

สาเหตุของ Quiet Quitting

  1. ขาดการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ
    การสื่อสารเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้องค์กรสามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่น แต่เมื่อพนักงานรู้สึกว่าเสียงของพวกเขาไม่ถูกได้ยิน หรือไม่ได้รับการตอบสนองจากหัวหน้างาน ผู้บริหาร หรือองค์กร พวกเขาก็จะเริ่มรู้สึกว่าไม่มีความหมายที่จะพยายามหรือเสนอความคิดเห็นใดๆ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการถอนตัวออกจากงานแบบเงียบๆ
  2. การขาดการยอมรับและชื่นชม
    พนักงานที่ทุ่มเททำงานหนักแต่ไม่ได้รับการยอมรับหรือชื่นชมจะรู้สึกว่าความพยายามของพวกเขาไร้ความหมาย และอาจเริ่มลดความกระตือรือร้นในการทำงาน เนื่องจากไม่รู้ว่าตัวเองควรพยายามไปเพื่ออะไร
  3. ขาดโอกาสในการพัฒนา
    การที่พนักงานไม่เห็นโอกาสในการเติบโตหรือพัฒนาทักษะใหม่ๆ ในองค์กร ทำให้พวกเขารู้สึกหมดกำลังใจและไม่เห็นอนาคตที่ชัดเจนร่วมกับองค์กร ซึ่งส่งผลให้พนักงานเริ่มละทิ้งความตั้งใจในการทำงาน
  4. ความไม่สมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว
    การทำงานที่หนักเกินไปโดยไม่มีเวลาพักผ่อนเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้พนักงานหลายคนรู้สึกหมดไฟ หรือที่เรียกว่า Burnout การขาดเวลาส่วนตัวที่เพียงพอทำให้พนักงานเริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายและเลือกที่จะทำงานเพียงขั้นต่ำเพื่อรักษาสุขภาพกายและใจ
  5. การเลือกหัวหน้างานที่ไม่มีทักษะความเป็นผู้นำ
    หัวหน้างานที่ขาดทักษะการเป็นผู้นำที่ดี ส่งผลให้พนักงานรู้สึกไม่มีทิศทางหรือแรงจูงใจในการทำงาน การที่หัวหน้ามีทักษะการบริหารจัดการและความเป็นผู้นำที่ไม่เหมาะสมสามารถทำให้ทีมงานสูญเสียศรัทธาและลดประสิทธิภาพในการทำงาน

วิธีการรับมือกับ Quiet Quitting

  1. ส่งเสริมการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ
    การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้างในการรับฟังความคิดเห็นของพนักงาน และการตอบสนองอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ การสื่อสารที่ดีไม่เพียงแต่จะช่วยลดความไม่พอใจของพนักงาน แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นใจและเพิ่มแรงจูงใจในการทำงาน การให้ฟีดแบคอย่างสม่ำเสมอและชัดเจนยังช่วยให้พนักงานรู้สึกว่าพวกเขามีส่วนร่วมในความสำเร็จขององค์กร
  2. สร้างแรงจูงใจและชื่นชมอย่างต่อเนื่อง
    การยอมรับและชื่นชมความพยายามและผลงานของพนักงานเป็นพื้นฐานสำคัญของวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง แองจี้แนะนำให้องค์กรสร้างวัฒนธรรมที่พนักงานรู้สึกว่าเขามีคุณค่าและได้รับการยอมรับ แม้แต่การชื่นชมความพยายามเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถสร้างแรงจูงใจให้พนักงานทำงานด้วยความตั้งใจและพยายามพัฒนาตนเองอยู่เสมอ
  3. ส่งเสริมการพัฒนาและเติบโตในหน้าที่การงาน
    พนักงานที่เห็นว่าองค์กรให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะและโอกาสในการเติบโตในหน้าที่การงานมักจะมีความกระตือรือร้นในการทำงานมากขึ้น การจัดอบรมหรือหลักสูตรพัฒนาทักษะใหม่ๆ จะช่วยให้พนักงานรู้สึกว่าพวกเขามีอนาคตที่ชัดเจนร่วมกับองค์กรและยังเป็นการเสริมสร้างทักษะที่จำเป็นต่อการทำงานในอนาคต
  4. รักษาสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว
    การสนับสนุนให้พนักงานมีเวลาพักผ่อนและดูแลสุขภาพของตัวเองเป็นเรื่องสำคัญที่องค์กรควรให้ความสำคัญ องค์กรสามารถนำรูปแบบการทำงานที่ยืดหยุ่น เช่น การทำงานจากบ้าน (WFH) หรือการกำหนดเวลาทำงานที่ยืดหยุ่น (Flexible Hours) มาใช้ เพื่อให้พนักงานได้มีเวลาให้กับตัวเองและครอบครัว
  5. เลือกหัวหน้างานที่มีทักษะการเป็นผู้นำ
    การเลือกหัวหน้างานเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลต่อการทำงานของทีมอย่างมาก หัวหน้าที่มีทักษะการบริหารและความเป็นผู้นำที่ดีจะสามารถนำพาทีมไปในทิศทางที่ถูกต้องและดึงศักยภาพของพนักงานออกมาได้เต็มที่ องค์กรควรให้ความสำคัญในการพิจารณาความสามารถของหัวหน้างานให้รอบด้าน ไม่ใช่เพียงแต่ความสามารถในการทำงานเท่านั้น แต่ยังต้องมีทักษะในการสื่อสารและการสร้างแรงจูงใจในทีมงานด้วย

การสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนการทำงานของพนักงาน

การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำงานอย่างมีความสุขและประสิทธิภาพเป็นเรื่องที่องค์กรต้องให้ความสำคัญ การที่พนักงานรู้สึกว่าพวกเขามีความหมายในองค์กรและมีโอกาสในการพัฒนาตนเองทำให้พวกเขามีแรงจูงใจในการทำงานมากขึ้น องค์กรควรสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการทำงานเป็นทีม เปิดโอกาสให้พนักงานได้แสดงความคิดเห็นและร่วมกันแก้ไขปัญหา นอกจากนี้ยังควรให้การสนับสนุนและให้กำลังใจพนักงานในการทำงาน รวมถึงการสร้างสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัวอย่างเหมาะสม

การรับมือกับภาวะ Quiet Quitting ไม่เพียงแต่จะช่วยรักษาพนักงานที่มีคุณค่าไว้ในองค์กร แต่ยังช่วยสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมอีกด้วยค่ะ ดังนั้นหากองค์กรของท่านกำลังเผชิญกับภาวะ Quiet Quitting อย่าปล่อยไว้เพราะคิดว่าไม่เป็นไร พนักงานยังไม่ออกเสียหน่อย เพราะหากพนักงานเกิดลาออกหรือ Performance ของพวกเขาตกต่ำแบบเห็นได้ชัดขึ้นมา นั่นจะเป็นเวลาที่ท่านคิดว่า “ทำไมฉันไม่แก้ปัญหาให้เร็วกว่านี้”


ภาวะ Quiet Quitting เป็นปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกองค์กร หากไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสมอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานและการดำเนินงานขององค์กรในระยะยาว การสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ และการให้การยอมรับและชื่นชมพนักงานอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันและลดภาวะ Quiet Quitting ในองค์กรของท่านได้

📌อย่าลืมติดตามเพจ HR Solutions By Angie เพื่อรับข้อมูลและเคล็ดลับดีๆ สำหรับ HR รุ่นใหม่กันนะคะ

#HRSolutionsByAngie #QuietQuitting #การบริหารงาน #HR #HRSolutions

แบ่งปันเพื่อนๆ หรือ แชร์เก็บไว้ดูเอง

Leave a Reply